บทนำ
มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ให้ความเคารพในความเป็นส่วนตัวของท่านและมีหน้าที่ที่จะต้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนั้น เราจึงได้จัดทำประกาศเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้เพื่อแจ้งให้ลูกค้าของเราทราบถึงนโยบายของเราที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลทั่วไป (“ท่าน”) โดยเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พระราชบัญญัติฯ”) รวมทั้งกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
วัตถุประสงค์ของประกาศเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้
ประกาศเรื่องความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่เราใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยและเหตุผลที่เกี่ยวข้อง ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว สิทธิของท่าน การดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านยังคงเป็นความลับและปลอดภัย และรวมถึงวิธีการที่ท่านจะใช้ในการติดต่อเรา
ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้แก่ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนซึ่งเราได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตของสินค้าและ/หรือบริการต่างๆ ที่ท่านอาจจะเคยใช้หรือสนใจ ทั้งนี้ ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลอาจจะรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้
หมวดหมู่ | ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดส่วนบุคคล | – ชื่อต้น ชื่อกลาง ชื่อสกุล นามแฝง (ถ้ามี) – เพศ – วันเกิด – อายุ – ประวัติด้านการศึกษา – สถานภาพสมรส – สัญชาติ |
รายละเอียดการติดต่อ | – ที่อยู่ที่ใช้ในการส่งไปรษณีย์ – ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ – หมายเลขโทรศัพท์ – หมายเลขโทรสาร – ชื่อของตัวแทนหรือบุคคล/กรรมการผู้มีอำนาจในการกระทำการแทนลูกค้าของเรา – บัญชีโซเชียลมีเดีย |
รายละเอียดการระบุตัวตนและการตรวจสอบตัวตน | – บัตรประจำตัวประชาชน – หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขเลเซอร์ (ด้านหลังของบัตรประจำตัวประชาชน) – ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง – ข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือรับรอง/บุคคลต่างด้าว – ใบขับขี่ – ลายมือชื่อ |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน | – ศาสนาดังที่ปรากฏอยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน – หมู่เลือดดังที่ปรากฏอยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน – ข้อมูลไบโอเมตทริกซ์ (เช่น การจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ การจดจำเสียง และการจดจำม่านตา) – ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก ส่วนสูง โรคประจําตัว) – บันทึกประวัติอาชญากรรม |
ขอได้โปรดทราบว่าเราอาจจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามหลักการที่ถูกต้องตามกฎหมายมากกว่าหนึ่ง หลักการโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์จำเพาะที่เราจะนำเอาข้อมูลของท่านมาใช้
หลักการที่ถูกต้องตามกฎหมายที่นำมาใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
หลักการที่ถูกต้องตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพียงหลักการเดียวก็คือความยินยอม และหลักการที่ถูกต้องตามกฎหมายอื่นๆ ในการประมวลผลข้อมูลตามพระราชบัญญัติฯ จะประกอบด้วย
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตราย – การป้องกันหรือการยับยั้งมีให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- การปฏิบัติตามสัญญา – ในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญาหรือเป็นสิ่งที่เจ้าของข้อมูลจะต้องปฏิบัติก่อนเข้าทำสัญญา
- เพื่อประโยชน์สาธารณะ – ในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลจำเป็นต่อการปฏิบัติตามพันธกิจของผู้ควบคุมข้อมูลเพื่อผลประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจสาธารณะที่ควบคุมข้อมูลได้รับมา
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย – ในกรณีที่การประมวลผลข้อมูลเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลหรือบุคคลอื่น ซึ่งไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลที่มีอยู่ในข้อมูลส่วนบุคคล
- ภาระผูกพันตามกฎหมาย – เพื่อเป็นการปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูล
- การวิจัย – การจัดทำเอกสารประวัติ เอกสารจัดเก็บในคลัง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยหรือสถิติ
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในบางครั้งเราจำเป็นที่จะต้องแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลภายนอกทราบ (ซึ่งอาจจะเกี่ยวพันกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคคลภายนอกเพื่อให้เราทราบและการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยเราเพื่อให้บุคคลภายนอกทราบ)
บุคคลภายนอกตามที่กล่าวถึงนี้อาจรวมถึง – บุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลตามหมวดหมู่ดังต่อไปนี้
ประเภทของบุคคลภายนอก |
- เราอาจจะซื้อกิจการแห่งอื่นหรือควบรวมกับกิจการแห่งอื่น หากมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับกิจการของเรา เจ้าของกิจการรายใหม่อาจนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในรูปแบบเดียวกันตามที่ระบุไว้ในนโยบายเรื่องความเป็นส่วนตัว
เราจะกำหนดให้บุคคลภายนอกทุกรายให้ความเคารพในความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยเป็นไปตามกฎหมาย เราจะไม่ยินยอมให้ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกของเราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัวและจะอนุญาตให้บุคคลเหล่านั้นประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้และเป็นไปตามคำสั่งของเรา
การโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ
บุคคลภายนอกของเราบางรายมีสถานประกอบการอยู่นอกราชอาณาจักรไทย ดังนั้น การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณีอาจจะมีการโอนข้อมูลไปยังนอกราชอาณาจักรไทยตามที่ได้รับอนุญาตด้วยความยินยอมหรือหลักการทางกฎหมายอื่นๆ เช่น การปฏิบัติตามสัญญาหรือภาระผูกพันตามกฎหมาย ฯลฯ
เมื่อใดก็ตามที่เราโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปนอกราชอาณาจักรไทย เราจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าประเทศเหล่านั้นมีมาตรการป้องกันที่อยู่ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่า ด้วยการทำให้แน่ใจว่าได้มีการนำเอามาตรการป้องกันดังต่อไปนี้มาใช้อย่างน้อย 1 ข้อ
เราจะโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศต่างๆ ที่พิจารณาแล้วเห็นว่ามีการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระดับที่เหมาะสมตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้
เมื่อใดก็ตามที่เราใช้บริการจากผู้ให้บริการบางราย เราอาจจะใช้สัญญาจำเพาะที่ได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระดับเดียวกันกับที่ใช้อยู่ในราชอาณาจักรไทย
เราจะดำเนินการประเมินผลกระทบที่เกิดจากการโอนข้อมูลก่อนที่จะโอนข้อมูลของท่าน
การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์
เราจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เราใช้ในการเก็บรวบรวมเท่านั้น เว้นแต่เราพิจารณาอย่างสมควรแก่เหตุผลแล้วเห็นว่าเราจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์อื่นและวัตถุประสงค์นั้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ดั้งเดิม
หากเรามีความประสงค์ที่จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่เกี่ยวข้อง เราจะแจ้งให้ท่านทราบและเราจะชี้แจงให้ทราบถึงหลักการตามกฎหมายที่อนุญาตให้เรากระทำการดังกล่าว
ขอได้โปรดทราบว่าเราอาจจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ท่านทราบหรือขอรับความยินยอมจากท่าน หากแต่เป็นไปตามระเบียบตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งเป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดไว้หรือให้การอนุญาต
ความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
เราได้นำเอามาตรการด้านความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสมมาใช้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการสูญหายโดยไม่ได้คาดคิด การใช้ หรือการเข้าถึงในรูปแบบที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการแก้ไข การเปิดเผย หรือการไม่สามารถเข้าถึง นอกจากนั้น เราจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้แค่เพียงพนักงาน ตัวแทน ผู้รับจ้าง และบุคคลภายนอกรายอื่นซึ่งจำเป็นที่จะต้องทราบข้อมูลเท่านั้น บุคคลเหล่านี้จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยเป็นไปตามคำสั่งของเรา อีกทั้งยังมีหน้าที่ในการรักษาความลับของข้อมูล
เราได้นำเอาระเบียบปฏิบัติมาใช้กับการกระทำผิดต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องสงสัย และจะแจ้งให้ท่านรวมทั้งผู้ควบคุมการกระทำผิดที่มีอำนาจทราบในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้เรากระทำการดังกล่าว
การเก็บรักษาข้อมูล
ท่านจะนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้าไปใช้เป็นระยะเวลานานเท่าใด?
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล รวมทั้งวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย การบัญชี หรือการรายงาน
ในส่วนของการกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมแล้ว เราจะพิจารณาถึงจำนวน ลักษณะ และความละเอียดอ่อนของข้อมูลส่วนบุคคล ความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายเนื่องมาจากการใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต วัตถุประสงค์ที่เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และพิจารณาว่าเราสามารถที่จะปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวโดยใช้วิธีการอื่นได้หรือไม่ รวมทั้งข้อกำหนดทางกฎหมายที่นำมาบังคับใช้
ตามกฎหมายแล้ว เราจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับลูกค้าของเราไว้ (รวมถึง รายละเอียดการติดต่อ อัตลักษณ์ ข้อมูลด้านการเงินและธุรกรรม) เป็นระยะเวลา 1 ปี หลังจากที่บุคคลเหล่านั้นมิได้มีฐานะเป็นลูกค้าของเราอีกแล้ว เพื่อการดำเนินการด้านภาษี
ในบางกรณี ท่านสามารถที่จะขอให้เราลบข้อมูลของท่านได้ – สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อเกี่ยวกับการร้องขอให้มีการลบข้อมูล ต่อจากนี้
ในบางกรณี เราอาจจะทำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ไม่สามารถระบุถึงตัวเจ้าของได้ (เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับท่าน) เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยหรือสถิติ ซึ่งในกรณีนี้ เราอาจจะใช้ข้อมูลดังกล่าวนี้ตลอดไปโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม
การใช้คุกกี้
เราอาจจะเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมทั้งเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันเมื่อท่านใช้สินค้าและ/หรือบริการของเรา ส่วนนี้จะรวมถึงในกรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของเราด้วย
การเก็บรวบรวมโดยใช้คุกกี้และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันดังกล่าวจะช่วยทำให้เราสามารถจดจำท่านได้ จดจำสิ่งที่ท่านชอบได้ รวมทั้งปรับปรุงวิธีการที่เราใช้ในการจัดหาสินค้าและ/หรือบริการให้แก่ท่าน เราอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์มากมาย
(เช่น เปิดการใช้งานและใช้งานฟังก์ชั่นพื้นฐาน เพื่อช่วยเราสามารถทำความเข้าใจถึงวิธีการที่ท่านใช้ในการโต้ตอบกับเว็บไซต์หรืออีเมลของเรา หรือช่วยให้เราสามารถที่จะปรับปรุงประสบการณ์ออนไลน์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น หรือติดต่อสื่อสารกับท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่า โฆษณาออนไลน์ที่แสดงให้ท่านเห็นจะมีความเกี่ยวข้องกับท่านและความสนใจของท่านมากยิ่งขึ้น) หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาดูได้ที่ XXXXXX
สิทธิตามกฎหมายของท่าน
ในบางกรณี ท่านจะมีสิทธิ์ในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้ในกฎหมายว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองข้อมูล เราได้ระบุรายละเอียดโดยย่อของสิทธิ์ดังกล่าวไว้ดังต่อไปนี้
- การขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (หรือเรียกกันทั่วไปว่า “คำขอเข้าถึงของเจ้าของข้อมูล”) – สิ่งนี้จะช่วยให้ท่านได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรักษาไว้รวมทั้งตรวจสอบว่าเราประมวลผลข้อมูลดังกล่าวอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
- การขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน – สิ่งนี้จะช่วยให้ท่านสามารถที่จะแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องซึ่งเป็นข้อมูลที่เราเก็บรักษาไว้ ถึงแม้ว่าเราอาจจะจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลใหม่ที่ท่านแจ้งให้เราทราบ
- การขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน – สิ่งนี้จะช่วยให้ท่านสามารถขอให้เราลบหรือย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากพบว่าการที่เรายังคงประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่พึงประสงค์ ท่านยังมีสิทธิ์ที่จะขอให้เราลบหรือย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่มีการใช้สิทธิ์คัดค้านการประมวลผลของท่าน (ดูรายละเอียดต่อจากนี้) ซึ่งเราอาจจะประมวลผลข้อมูลของท่านอย่างผิดกฎหมาย หรือในกรณีที่เราจำเป็นที่จะต้องลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายในท้องที่ อย่างไรก็ตาม ขอได้โปรดทราบว่าเราอาจจะไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามคำร้องขอลบข้อมูลของท่านได้เสมอไป ด้วยเป็นเพราะเหตุผลทางกฎหมายบางประการ ซึ่งในกรณีที่จำเป็นแล้ว เราจะแจ้งให้ท่านทราบ ณ เวลาที่ท่านร้องขอ
- การคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน – ในกรณีที่เราอ้างถึงผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย (หรือผลประโยชน์ของบุคคลภายนอก) และในบางสถานการณ์ที่ทำให้ท่านมีความประสงค์ที่จะคัดค้านการประมวลผลข้อมูลด้วยเป็นเพราะท่านรู้สึกว่าการประมวลผลข้อมูลส่งผลต่อสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของท่าน ท่านยังมีสิทธิ์ที่จะคัดค้านในกรณีที่เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการตลาดทางตรง ในบางกรณี เราอาจจะแสดงให้ท่านเห็นว่าเรามีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งบังคับให้เราประมวลผลข้อมูลของท่านจนส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน
- การขอให้จำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน – สิ่งที่จะช่วยให้ท่านขอให้เราระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้
ก. หากท่านต้องการให้เราแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง หรือ
ข. ท่านได้คัดค้านมิให้เราใช้ข้อมูลของท่าน แต่เราจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบว่าเรามีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายในการนำเอาข้อมูลนั้นมาใช้หรือไม่ - การขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้แก่ท่านหรือบุคคลภายนอก – เราจะจัดส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปให้แก่ท่านหรือบุคคลภายนอกที่ท่านเลือกไว้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับการจัดโครงสร้าง ถูกนำมาใช้งานโดยทั่วไป และอ่านด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ขอได้โปรดทราบว่าสิทธิ์นี้จะถูกนำไปใช้กับข้อมูลอัตโนมัติที่ท่านให้ความยินยอมให้เราใช้งานในคราวแรก หรือในกรณีที่เราใช้ข้อมูลนั้นในการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับท่าน
- การเพิกถอนความยินยอมไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม ในกรณีที่เราอาศัยความยินยอมให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน – อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องตามกฎหมายของการประมวลผลใดๆ ที่ได้รับการดำเนินการก่อนที่ท่านจะเพิกถอนความยินยอม หากท่านเพิกถอนความยินยอมของท่าน เราอาจไม่สามารถที่จะจัดหาสินค้าหรือบริการบางประเภทให้แก่ท่านได้ เราจะแจ้งให้ท่านทราบในกรณีนี้ ณ เวลาที่ท่านเพื่อขอความยินยอมของท่าน
หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิ์ใดๆ ตามที่กล่าวถึงข้างต้น กรุณาติดต่อไปที่ XXXXXXX
วิธีติดต่อเรา
หากท่านมีข้อซักถามใดๆ หรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศเรื่องความเป็นส่วนตัว กรุณาติดต่อกับเราผ่านทางช่องทางดังต่อไปนี้
รายละเอียดการติดต่อ
มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด (วิทยาเขตกรุงเทพฯ)
เลขที่ 16 ถนนมอเตอร์เวย์ (กม.2) แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
โทร : (+66)0 2-769-4000.
อีเมล: international@stamford.edu
การเปลี่ยนแปลงประกาศเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้
ในบางครั้งคราว เราอาจเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ให้เป็นปัจจุบัน และเราจะแสดงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้บนเว็บไซต์ของเรา XXXXXXX
ฉบับเดือนพฤษภาคม 2565